Kinds of Kindness (2024)

Kinds of Kindness (2024) นอกเหนือจากนี้ ยังมีความแปลกใหม่ด้วยการให้ศิลปินกรุ๊ปเดิมรับบทบาทที่ต่างๆนาๆในแต่ละตอน ช่วยเพิ่มความรู้สึกสม่ำเสมอในระดับจิตไร้สำนึกเจริญ ถึงแม้เรื่องราวแล้วก็หน้าที่ของผู้แสดงจะแตกต่างกัน แต่ว่าก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกว่าเกิดขึ้นในโลกเดียวกัน โดยในแต่ละตอนดาราจะปรับภาพลักษณ์เพียงนิดหน่อย ดังเช่น เปลี่ยนแปลงสไตล์ทรงผมแล้วก็การเสริมสวย ปรับพฤติกรรมและก็กิริยาอาการ เพื่อแปลงจากผู้แสดงหนึ่งไปเป็นอีกนักแสดงหนึ่ง บอกเลยว่าแฟนหนังนอกกระแสพลาดมิได้ ส่วนหนังจะมีเรื่องมีราวราวเป็นเยี่ยงไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมเพียงกันได้เลย เป็นภาพยนตร์ตลกร้ายที่เล่าถึงความเกี่ยวพันระหว่างมนุษย์

ความเลื่อมใสและก็การขาดเลื่อมใส ความรักและก็การขาดความรัก ผู้ที่รักรวมทั้งการขาดพวกเขา Kinds of Kindness (2024)  โดยบากบั่นถ่ายทอดมุมมองในเรื่องของอำนาจและก็ความเคลื่อนไหวไปของความมุ่งมั่นตั้งใจเสรี พร้อมทั้งการต่อสู้ระหว่างความอิสระสำหรับเพื่อการเลือกแล้วก็ความอิสระจากการเช็ดกเลือก เอ็งปรี่ บอกว่า หัวหน้าที่ดีควรมีความเข้าใจคนอื่น (empathy) ใส่ใจทราบในตัวเอง (self-awareness) มีเมตตา ห่วงใยต่อคนอื่น (kindness) ในเวลาเดียวกันจำต้องเห็นค่าในตนเอง (self-esteem) ‘kindness’ ก็เลยไม่ใช่เรื่องของคนไม่แข็งแรง

การเรียนทางวิทยาศาตร์ชี้ให้เห็นว่า kindness เป็นประโยชน์ต่อเด็กทั้งยังทางร่างกายและก็อารมณ์ แพตตี้ โอ กราดี้ (Patty O’Grady) ผู้ชำนาญด้านประสาทวิทยาศาสตร์ การเรียนทางอารมณ์ แล้วก็จิตวิทยาเชิงบวก ที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษทางการศึกษา บอกว่า วัยเด็กแล้วก็วัยรุ่นมิได้ศึกษาเรื่อง kindness จากเพียงแต่คำกล่าว หรือ ความนึกคิด แต่ว่าทำความเข้าใจได้ดิบได้ดีที่สุดจาก ความรู้สึก ความประสงค์ดีต่อคนอื่นๆเปลี่ยนระบบการทำงานในสมอง

Kinds of Kindness (2024) ด้วยประสบการณ์

ที่ได้จากการมีความประสงค์ดีต่อคนอื่นๆ

ซึ่งก็ถือได้ว่า kindness สร้างได้จากการลงมือกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ขัดเกลาให้กำเนิดความรู้สึกประสงค์ดีรวมทั้งห่วงใยต่อคนอื่นๆ อย่างเช่น การแบ่งปันของหวานให้สหาย ความรู้สึกดีที่ได้รับจากการให้คนอื่นๆก่อน ทำให้สมองของเด็กศึกษากรรมวิธีผลิตซ้ำความรู้สึกดีนั้น แล้วส่งต่อความรู้สึกที่ดีไปยังคนอื่นๆ เรื่องที่กำลังเอ๋ยถึงอยู่นี้ไม่ใช่สิ่งที่กล่าวขึ้นลอยๆแม้กระนั้นมีงานค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์มากไม่น้อยเลยทีเดียวรองรับว่า “kindness” เป็นโรคติดต่อที่ส่งถึงกันได้

ภาพยนตร์หัวข้อนี้เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับ ชายคนหนึ่งที่อุตสาหะจะหนีออกมาจากทางที่ถูกกำหนดไว้ของเขา, ตำรวจคนหนึ่งที่ตั้งคำถามในความประพฤติปฏิบัติของเมียของเขา ภายหลังที่คุณกลับมาจากเรื่องราวที่คุณน่าจะจมนํ้า และก็หญิงสาวคนหนึ่งที่ตั้งดวงใจที่จะค้นหาใครซักคนที่ถูกทำนายไว้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นผู้นำลัทธิที่มีชื่อ โดยอีกทั้งสามผู้แสดงจะเข้าเกี่ยวข้องกันในรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้ ลานธิมอส จะควบคุมภาพยนตร์ประเด็นนี้จากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับ เอฟธิมิส ฟิลิปปู ส่วนกลุ่มดาราหนังนอกจากไปจาก สโตน แล้ว ก็จะประกอบไปด้วย เจสซี่ พลีมอนส์, วิลเลม เดโฟ, มาร์กาเร็ต ควอลลีย์, ฮอง เชา, โจ อัลวิน,  Kinds of Kindness (2024) มามูมอง อะหนย์ รวมทั้ง ฮันเตอร์ เชเฟอร์

ปัจจุบันนี้ ได้รับคะแนนจากเว็บ ไอกรรมการผู้จัดการบี อยู่ที่ 7.1 คะแนน รวมทั้งได้รับคะแนนจากนักวิพากษ์วิจารณ์บนเว็บ คอยตเทนโทมันข้นส์ ปริมาณ 25 คน อยู่ที่ 92 เปอร์เซ็นต์เว้นแต่สโตนที่เฉิดฉันมากมายๆกับ ‘Poor Things’ แล้วนั้น เดโฟรวมทั้งควอลลีย์ที่แสดงได้อย่างดียิ่งใน ‘Poor Things’ ก็กลับมาร่วมงานกับลานธิมอสด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการซ้ำเติมว่า ‘Kinds of Kindness’ จะมีความพิเศษในด้านการเล่าเรื่องที่เหนือจริงและก็กระทบกระแทกแดกดันสังคม แล้วก็เคมีที่พอดีระหว่างกลุ่มดาราหนังแล้วก็ผู้กำกับ ตามที่มองเห็นได้จากผลงานของลานธิมอสก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอย่าง ‘The Lobster’ (2015), ‘The Killing of Sacred Deer’ (2017) แล้วก็ ‘The Favourtie’ (2018)

แต่ละตอนมีการเล่าที่เป็นเอกเทศ แต่ว่าผูกโยงอยู่ในจักรวาลเดียวกัน

ด้วยการเชื่อมอย่างหละหลวมๆอีกทั้งการเล่าถึงความเกี่ยวพันที่พิลึกระหว่างบิดากับลูก เมื่อชายผู้ไม่มีสิทธิ์ตกลงใจอะไรด้วยตัวเอง อุตสาหะจะกลับมามีสิทธิ์มีเสียงในชีวิตอีกรอบ และก็การสะท้อนถึงความปลอดภัยในชีวิตการเป็นสามีภรรยา ผ่านการเล่าถึงตำรวจผู้ระแวงว่าเมียที่กลับมาภายหลังล่องหนไปกึ่งกลางสมุทรจะไม่ใช่เมียของเขาจริงๆท้ายที่สุดยังถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับกับความยั่งยืนทางเลื่อมใส ด้วยเรื่องของหญิงสาวผู้จะต้องออกตามหาบุคคลที่มาพร้อมพลังพิเศษบางสิ่งบางอย่าง เพื่อช่วยทำให้คุณก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำทางจิตวิญญาณทางด้านจิตวิญญาณ

นอกเหนือจากนั้น ยังมีความแปลกใหม่ด้วยการให้ศิลปินกรุ๊ปเดิมรับบทบาทที่นาๆประการในแต่ละตอน ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกสม่ำเสมอในระดับจิตไร้สำนึกเจริญ ถึงเรื่องราวรวมทั้งหน้าที่ของผู้แสดงจะไม่เหมือนกัน แม้กระนั้นก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกว่าเกิดขึ้นในโลกเดียวกัน  Kinds of Kindness (2024) ถูกจัดเป็นภาพยนตร์เรต R ด้วยเหตุว่าบรรยากาศที่น่าสยดสยองมากยิ่งกว่าเรื่องใดๆก็ตามรายละเอียดที่ไม่เหมาะสม โดยตรวจสอบธีมต่างๆด้วยการประสมประสานอารมณ์ขำขันร้าย แล้วก็ส่วนประกอบตื่นเต้นทางด้านจิตวิทยา ผู้กำกับ Lanthimos สร้างประสบการณ์การดูภาพยนตร์ที่ผู้ชมต่างรู้สึกตื่นตัว ตื่นเต้นไปกับความไม่เที่ยง อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าผู้แสดง

จะทำอะไรถัดไป หรือเพราะเหตุไรพวกเขาก็เลยทำอย่างงั้น นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงความชำนาญของเขาสำหรับในการสร้างความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจผ่านอีกทั้งการเล่าเรื่องและก็พลวัตของผู้แสดง ชายคนหนึ่งที่พากเพียรจะหนีออกมาจากทางที่ถูกกำหนดไว้ของเขา, ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนหนึ่งที่ตั้งเรื่องที่น่าสงสัยในความประพฤติของเมียของเขา ภายหลังที่คุณกลับมาจากเหตุที่คุณน่าจะจมนํ้า แล้วก็หญิงสาวคนหนึ่งที่ตั้งดวงใจที่จะค้นหาใครบางคนที่ถูกทำนายไว้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นผู้นำลัทธิที่โด่งดัง

อีกทั้งสามนักแสดงจะเข้ามาเผชิญกันในรูปภาพยนตร์ประเด็นนี้

Kinds of Kindness (2024)

เบื้องหลังของเรื่องราวเป็นอเมริกันในช่วงปัจจุบัน เกิดเรื่องราวตลกโปกฮาร้ายหน้าเฉย ขำผสมขม ของมากมายผู้แสดงที่ชีวิตได้มาเกี่ยวเนื่องกัน ผู้ผลิตนิยามหนังว่าเป็น “triptych fable” ซึ่งพวกเราบางทีอาจแปลได้ทำนองว่าเป็นเทพนิยายสามช่องจบ ตามความหมายของคำว่า “triptych” หรือ “บานพับภาพ” อันเป็นภาพลายเส้นสามช่องที่มักวาดบนฝาผนังแท่นบูชาในโบสถ์ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะหนังประเด็นนี้มีเรื่องมีราวย่อยแบ่งเป็นสามเรื่องของสามผู้แสดง เรื่องแรกเป็นผู้ชายที่มีความรู้สึกว่าเขาควบคุมชีวิตตนเองมิได้และก็พุ่งเป้าที่จะลิขิตชีวิตตนเองให้ได้ เรื่องลำดับที่สองคือเรื่องของนายตำรวจที่ได้กลับมาเจอกับเมียที่ตัวคุณนั้นแปรไปภายหลังหายสาปสูญไปในสมุทร และก็เรื่องท้ายที่สุดคือเรื่องของหญิงสาวผู้ตั้งใจจริงที่จะค้นหาคนที่จะมากมายลายเป็นผู้นำลัทธิ

หนังดัดแปลงแก้ไขจากนิยายชื่อเดียวกันเมื่อปี 2010 ซึ่งได้ผลงานเรื่องที่ 22 ของยอดเยี่ยมผู้เขียนแนวธริลเลอร์สายรวมทั้งอาชญากรรมอย่าง John le Carré ที่ผลงานก่อนๆของเขาเคยถูกนำมาผลิตเป็นหนังอย่าง Kinds of Kindness (2024)  The Constant Gardener (2005) ที่ว่าด้วยการเดินทางสืบเสาะหาเหตุการถึงแก่กรรมปัญหา ของเมียสาว ในแอฟริกา แล้วก็ Tinker Tailor Soldier Spy (2011) เกี่ยวกับวงการสายสมัยสงครามเย็นที่ซ้อนแผนกันไปกันมา หากผู้ใดกันแน่เคยมองผลงานหนังจากนิยายของเขาจะพบว่า สไตล์การเล่าเรื่องของเขาจะค่อนข้างจะเนิบนิ่ง แล้วก็ดึงพวกเราตรงลึกลงไปสู่โลกที่ไม่เคยชิน เพิ่มปัญหาเดินหน้าให้ผู้ชมติดตามอย่างสุขุมมีเอกลักษณ์ ซึ่งคนใดกันแน่หวังจะไปเน้นย้ำแนวแอ็กชั่นแบบหนังสายโลกใหม่

ในตอนยี่สิบปีให้หลัง Yorgos Lanthimos ได้ปรับปรุงขั้นตอนการทำภาพยนตร์ในแบบอย่างของเขาเอง เหมือนกับ David Lynch เขาได้ปรับปรุงต้นแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลซึ่งจะถูกเรียกว่า Lanthimosian ในวันหนึ่ง ถ้ายังไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา โดยธรรมดา ภาพยนตร์ของเขาแม้ว่าจะมากมาย แม้กระนั้นโดยธรรมดาจะตรวจสอบพลวัตของอำนาจ โดยมีตัวละครที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบบทพูดที่ออกจะไม่จริง

และก็เรื่องราวที่ตลกอย่างมืดหม่นหมองที่มีทั้งยังการสังหารและก็ความเปลื้องผ้า

มีลักษณะเด่นทั้งปวงของสไตล์ของเขา ภาพยนตร์รวมเรื่องหรือที่เรียกว่าทริปว่ากล่าวกนั้น รายละเอียดเชิงธีมของภาพยนตร์สามารถตีความหมายได้หลายแบบ โดยที่เห็นได้ชัดที่สุดเป็นการควบคุม เพราะว่าในแต่ละเรื่องทั้งยังสามประเด็นนั้น จะได้รับการสำรวจในแบบอย่างใดแบบหนึ่ง ในเรื่องแรก ชายคนหนึ่งอุตสาหะยืนหยัดต่อสู้กับนายจ้างที่ถูกใจสั่งการของเขา ซึ่งผลที่ได้ก็ไม่ดี ในเรื่องที่สอง ตำรวจที่สูญเสียการควบคุมชีวิตภายหลังเมียล่องหนไป พบว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆเมื่อคุณกลับมา ในเรื่องที่สามรวมทั้งเรื่องท้ายที่สุด สตรีสถานที่ทำงานให้กับลัทธิอุตสาหะตามหาบุคคลที่มีพลังลึกลับ

ในแต่ละเรื่อง อาจจะบอกได้ว่า Lanthimos กำลังตรวจตราประเด็นที่ไม่เหมือนกันของการควบคุมเกี่ยวกับพลวัตของอำนาจและก็ส่วนประกอบครอบครัว ในส่วนเปิด Lanthimos ตรวจสอบธีมของการกดขี่แล้วก็การกบฏ โดยย้ำที่ความสมดุลที่ประณีตระหว่างการยืนยันในตนเองและก็การเสี่ยงที่เกี่ยวพันกับการท้าอำนาจ นอกเหนือจากนั้น เมื่อหลุดพ้นจากองค์ประกอบการควบคุมที่เขารู้จักอย่างไม่รู้ตัวแล้ว ตัวนำก็เพียรพยายามที่จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกข่มเหงอีกรอบ  Kinds of Kindness (2024) ซึ่งเป็นการตรวจสอบที่สะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับความประพฤติปฏิบัติแล้วก็ความมั่นหมาย

ในเรื่องที่สอง แนวความคิดที่เชื่อมโยงกันของอำนาจ การจัดการ รวมทั้งสิ่งลวงตาของการควบคุมถูกตรวจสอบ ตอนที่ตำรวจพากเพียรอย่างหดหู่ที่จะควบคุมและก็ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยทราบและไม่มีอำนาจเหนือ สิ่งที่จำเป็นที่ไม่มีเหตุผลที่เขายื่นต่อเมียเพื่อคุณแสดงความรักต่อเขานั้น เปิดเผยให้มองเห็นถึงความยาวที่คนๆหนึ่งสามารถทำเป็นเพื่อรักษาการควบคุมและก็เสถียรภาพเมื่อพบเจอกับความสับสนวุ่นวายที่รับทราบได้ เป็นผู้กำกับคนหนึ่งที่คุณควรต้องถูกใจ

หรือรังเกียจก็ได้ Poor Things เป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดมากมาย

ในตอนต้นปีนี้ได้รับรางวัลล้นหลาม แต่ว่า Kinds of Kindness เป็นภาพยนตร์ที่ฉันไม่ได้อยากต้องการมองซ้ำอีกเลย  CONTINUECURIOSO จัดว่าดีทีเดียว ภาพยนตร์หัวข้อนี้แบ่งได้สามเรื่องราว เรื่องราวทั้งผองดี การแสดงดี บทสนทนาดี เกือบดีทั้งหมดทั้งปวง แม้กระนั้นสำหรับผู้แสดงในความเป็นจริงแล้ว ฉันรังเกียจพวกเขาเลย พวกเขาเป็นผู้ที่ฉันไม่ได้อยากใช้เวลาด้วยเลย พวกเขาเป็นผู้ที่น่าเบื่อหน่ายมากมาย บางครั้งบางคราวโน่นบางทีอาจเป็นใจความสำคัญก็ได้ ถ้าหากเป็นแบบนั้น ก็นับว่าสำเร็จ แม้กระนั้นถึงแบบงั้น แม้ว่าจะมีฉากหัวเราะดังๆที่สุดยอด ฉันก็ยังรู้สึกเฉยๆกับภาพยนตร์หัวข้อนี้ ไม่ใช่เรื่องห่วย แต่ว่าในความนึกคิดของฉัน ไม่ใช่ผลงานที่เยี่ยมที่สุดของ Lanthimos ด้วยเหตุผลดังกล่าว 6/10 เป็นคะแนนสูงสุดที่ฉันจะให้ได้ ควรจะตัดเวลาออกด้วย

Yorgos Lanthimos กลับมาอีกทีพร้อมความแค้น โดยพรีเซ็นท์ภาพยนตร์ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกใกล้เคียงกับผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้าที่ผ่านมาของเขาเพิ่มมากขึ้น “Kinds of Kindness” เป็นภาพยนตร์ที่ท้าในแง่ว่าคุณจะต้องสัมผัสกับมันด้วยอารมณ์ การพยายามใช้ปัญญาจะก่อให้รู้สึกอารมณ์เสียแค่นั้น นี่เป็นภาพยนตร์จำพวกที่มอบประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครให้กับคุณ เมื่อเครดิตขึ้นแล้วก็คุณออกมาจากโรงหนัง  Kinds of Kindness (2024) คุณจะไม่ทิ้งภาพยนตร์ไว้ด้านหลัง แม้กระนั้นคุณจะนำมันประจำตัวไปที่บ้านด้วย มันมีผลต่อคุณ มันวนเวียนอยู่ในหัวของคุณ แล้วก็ทำให้ท่านนึกถึงมันตลอดระยะเวลา โน่นเป็นผลพวงอย่างน้อยที่สุดที่ภาพยนตร์หัวข้อนี้มีต่อฉัน

มีการเอ่ยถึง Lanthimos และก็อิทธิพลที่อาจมีต่อภาพยนตร์ของเขาจำนวนมาก ตั้งแต่ความธรรมดาที่เย็นชารวมทั้งเยาะเย้ยของ Michael Haneke ไปจนกระทั่งภาพยนตร์ที่ตื่นเต้น ร้ายแรง และก็ก่อกวนจิตใจของ Lars Von Trier แล้วก็ในที่สุดเป็น Odysseys ที่ทะยานอยากรวมทั้งมีภาพยนตร์เยอะมากของ Stanley Kubrick โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์หัวข้อนี้ Lanthimos ซ้ำเติมถึงสิ่งที่ผมรู้สึกเกี่ยวกับเขาตลอดมา เขาทำให้ผลงานของเขาหลายๆเรื่องมีความเหนือจริง อย่างกับความฝัน และก็มีพลังจิตที่ลึกซึ้ง รวมทั้ง “Kinds of Kindness” นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่เหนือจริง เช่นเดียวกันกับความฝัน และก็มีพลังจิตที่ลึกซึ้งที่สุดเท่าที่เขาเคยสร้างมา ผมคิดว่าเขามีความสนิทสนมกับเดวิด ลินช์มากยิ่งกว่าที่คนโดยมากคิด